ทำได้สำเร็จตามเป้าหมายทั้งคู่ สำหรับ ทีมชาติไนจีเรีย และ ทีมชาติตูนิเซีย หลังพวกเขาสามารถผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ในศึก คัดบอลโลก แอฟริกา ได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทีมชาติไนจีเรีย ภายใต้การคุมทัพของ แกร์น็อต โรห์ร เปิดบ้านเสมอกับ หมู่เกาะแคปเวิร์ด ไปด้วยสกอร์ 1-1 นำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนกลุ่มซี ด้วยการมี 13 แต้ม จากการลงสนาม 6 เกม
ส่วนทางด้าน ทีมชาตูนิเซีย ภายใต้การคุมทัพของ ม็องด์เฮอร์ เบคายเยร์ เปิดบ้านถล่ม ทีมชาติแซมเบีย ไปด้วยสกอร์ 3-1 นำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนกลุ่มบี ด้วยมีการ 13 แต้ม จากการลงสนาม 6 เกม
ขณะที่ ทัพหมอผี ทีมชาติแคเมอรูน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ทีมชาติไอวอรีโคสต์ ด้วยสกอร์ 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ หลังเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนกลุ่มดี
ทีมชาติไนจีเรีย ควงแขน ทีมชาติตูนิเซีย ผ่านเข้ารอบต่อไป คัดบอลโลก แอฟริกา
พลพรรคอินทรีมรกต ทีมชาติไนจีเรีย ภายใต้การคุมทัพของ แกร์น็อต โรห์ร สะดุดเล็กน้อย หลังทำได้เพียงแค่เปิดบ้านเสมอกับ หมู่เกาะแคปเวิร์ด ไปด้วยสกอร์ 1-1 เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
ทีมชาติไนจีเรีย ได้ประตูออกนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีแรกของการแข่งขัน จากการยิงของ วิคเตอร์ โอซิมเฮน ก่อนที่ สโตปิรา จะยิงให้ หมู่เกาะแคปเวิร์ด ตามตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 5 นาทีต่อมา
แม้ว่าจะไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ แต่ 1 แต้ม จากการเสมอกับ หมู่เกาะแคปเวิร์ด ก็เพียงพอให้ ทีมชาติไนจีเรีย ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ในฐานะแชมป์ของกลุ่มซี หลังเก็บไปได้ 13 แต้ม จากการลงสนาม 6 เกม
ข้ามมาที่ พลพรรคอินทรีแห่งคาร์เธจ ทีมชาติตูนิเซีย ภายใต้การคุมทัพของ ม็องด์เฮอร์ เบคายเยร์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เปิดบ้านไล่ถล่ม ทีมชาติแซมเบีย ไปด้วยสกอร์ 3-1
ทีมชาติตูนิเซีย ได้ 3 ประตู จากการยิงของ อาอิซา ลาอิดูนี ในนาทีที่ 18 , โมฮาเหม็ด เดรเกอร์ ในนาทีที่ 31 และ อาลี มาลูล ในนาทีที่ 43 ส่วน ทีมชาติแซมเบีย ได้ 1 ประตู จากการยิงของ แฟชัน ซาคาลา ในนาทีที่ 80
ชัยชนะเหนือ ทีมชาติแซมเบีย ด้วยสกอร์ 3-1 ส่งผลให้ ทีมชาติตูนิเซีย ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ในฐานะแชมป์ของกลุ่ม กลุ่มบี หลังเก็บไปได้ 13 แต้ม จากการลงสนาม 6 เกม
ขอตามไปด้วย ทีมชาติแคเมอรูน เปิดบ้านเชือด ทีมชาติไอวอรีโคสต์ หวุดหวิด 1-0
พลพรรคหมอผี ทีมชาติแคเมอรูน ภายใต้การคุมทัพของกุนซือชาวโปรตุเกส อย่าง โทนี่ คอนไซเซา ยังคงทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ หลังเปิดบ้านเชือด ทีมชาติไอวอรีโคสต์ หวุดหวิด ด้วยสกอร์ 1-0
ในช่วงเริ่มต้นเกมการแข่งขัน เป็นทางด้านของ ทีมชาติไอวอรีโคสต์ ผู้มาเยือน ที่สามารถทำได้ดีกว่าเล็กน้อย และมีโอกาสลุ้นก่อน ตั้งแต่นาทีที่ 6 จากจังหวะปั่นฟรีคิก แต่ก็ซัดข้ามคานออกไปเยอะ
หลังจากนั้น ทีมชาติแคเมอรูน เริ่มเป็นฝ่ายตั้งเกมบุกเข้าใส่บ้าง ก่อนจะมาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ คาร์ล โตโก เอก็อมบี้ ได้ครองบอลในกรอบเขตโทษ ก่อนจะซัดด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย
การตกเป็นฝ่ายตามหลัง ทำให้ ทีมชาติไอวอรีโคสต์ เปิดเกมรุกเข้าใส่มากยิ่งขึ้น ซึ่งพวกเขามีโอกาสได้ประตูตามตีเสมอหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถยิงผ่านมือของ อ็องเดร โอนาน่า เข้าไปได้
ส่วนทางด้านของ ทีมชาติแคเมอรูน พยายามใช้จังหวะสวนกลับเร็ว เล่นงาน ทีมชาติไอวอรีโคสต์ แต่ก็ยังขาดความเฉียบคมในจังหวะสุดท้าย ทำให้ไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติม
จบเกม ทีมชาติแคเมอรูน เปิดบ้านเอาชนะ ทีมชาติไอวอรีโคสต์ ด้วยสกอร์ 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 15 แต้ม จากการลงสนาม 6 เกม รั้งตำแหน่งจ่าฝูงของตารางคะแนนกลุ่มดี ผ่านเข้าไปรอบต่อไปได้สำเร็จ