วิเคราะห์เกมลาลีกา กับสถานการณ์การลุ้นแชมป์ลาลีกาที่เข้มข้นมัสน์สหยุดชนิดที่ต้องติดตามผลกันนัดต่อนัด ยิ่งสัปดาห์ไหนมีการสับหว่าลงแข่งขันก่อนหลังต่างกัน เรียกว่า กองเชียร์ ตราหมี ชุดขาว เจ้าบุญทุ่มทีลุ้นกันทุกที
แต่ถ้าถามกันตอนนี้ว่า ทีมไหนมีโอกาสคว้าแชมป์ ส่วนใหญ่แทบเทคะแนนไปให้ ราชันชุดขาว มาดริด ว่ามีโอกาสดีกว่าทีมไหน อะไรที่ทำให้แฟนคลับ รวมไปถึงนักวิจารณ์เกมเห็นดังนั้น กับ 3 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ เรอัล มาดริด มีโอกาสคว้าชัยมากกว่าใครเพื่อน
วิเคราะห์เกมลาลีกา กับตัวแปร 3 ประการที่พามาดริดถึงบัลลังก์แชมป์
วิเคราะห์เกมลาลีกา แม้ว่า ณ ตอนนี้ลูกทีมของฺ ซิเมโอเน่ ยังรักษาบัลลังก์จ่าฝูงเอาไว้ได้ แต่การที่มีแต้มนำหน้าราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เริ่มส่ออาการไม่แน่ใจแล้วว่าบทสรุปของแชมป์ลาลีกาปีนี้จะลงเอยอย่างไร โดยเฉพาะการกลับมาใหญ่ของ เรอัล มาดริด ที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง จนเป็น 3 เหตุผลที่คนทั้งหลายเชื่อว่า เรอัล มาดริด ก็ยังน่าจะได้แชมป์ในปีนี้
1. คีย์แมนคนสำคัญ
แม้ว่า แอตเลติโก มาดริด จะมี ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ และ หลยุส์ ซัวเรซ เป็นตัวนำทัพ และบาร์ซ่า ยังมี เมสซี่ เป็นตัวคุมเกม พร้อมกับ เด็มเบเล่ แต่ถึงกระนั้น ถ้าเทียบกับฟอร์มของสองคีย์แมนคนสำคัญของ เรอัล มาดริด คือ คาริม เบนเซม่า และ “เอล กาปิตัน” เซร์คิโอ รามอส ทั้งสองคนถือเป็นแกนหลักสำคัญที่ทำให้มาดริดกลับมายืนอยู่ในฐานะผู้ท้าชิงได้
ในช่วงเปิดฤดูกาล หลายคนปรามาสว่า มาดริดน่าจะหลุดวงโคจรเป็นแน่แท้ เพราะว่า ไม่อาจเสริมทัพนักเตะตัวใหม่ได้ อีกทั้งนักเตะคีย์หลักก้แทบหมดสภาพ เอแด็น อาซาร์ ที่ทั้งเจ็บ ทั้งอ้วน กองหน้าและตัวรุกอย่าง โรดริโก้ และ วินิซิอุส จูเนียร์ ก็ยังไม่อาจฝากผีฝากไข้ได้
ดังนั้นในช่วงแรกที่ป๋าใหญ่ เบนเซม่า ยังไม่มา ผลงานมาดริดดูไม่ดีเอาเลย จนกระทั่งป๋า เบนเซม่า ลงเล่นได้อย่างต่อเนื่อง บวกกับเฮีย รามอส เป็นหัวใจในแผงหลัง เรียกได้ว่าหาแต้มหล่นได้ยากมากเมื่อทั้งสองคนยืนในสนามในฐานะผู้เล่นของ เรอัล มาดริด
2. แมชต์การแข่งขันที่เป็นใจ
เมื่อนำแมชต์การแข่งขันที่เหลือของทั้งสามทีมมาวางเปรียบเทียบกันแล้ว ชุดขาว มีงานง่ายและเบาที่สุด ทั้งสามทีมจะต้องมีเกมตัดแต้มกันเองกั บบาร์เซโลน่า อีกคนละหนึ่งครั้ง
แต่ถึงกระนั้นด้วยเงื่อนไขของเวลาและสถานการณ์สร้างความได้เปรียบให้กับ มาดริดมากกว่า คือ มาดริด จะเจอกับบาร์ซ่าในวันที่ 11 เมษายน ซึงยังคงยอมรับความผิดพลาดได้บ้างในเกมนี้ แต่สำหรับทีมตราหมี พวกเขาจะฟาดแข้งกับบาร์ซ่าในวันที่ 9 พฤษภาคม
ซึ่งถ้าแต้มยังสูสี จะเป็นเกมที่กดดันเอามาก ๆ เกมที่เหลือหลังจากนั้นดูไม่ใช่งานหนักของทั้งคู่ ดังนั้น ถ้าตราหมีหลุดฟอร์มกับนัดเจอบาร์ซ่า เรียกได้ว่าทุกอย่างที่ทำมาคือจบ
3. ชายที่ชื่อ ซีเนอดีน ซีดาน
ต้องยอมรับและซูฮกด้วยหัวใจว่า ผลงานที่โดดเด่นของ เรอัล มาดริด ในครานี้ต้องยกผลประโยชน์ให้ ซีดาน ไปเต็ม ๆ เพราะเขาโดนเล่นมาอย่างนหักตั้งแต่ต้นฤดูกาลถึงขนาดเตรียมโดนเด้งออกจากตำแหน่งกุนซือ
แต่กุนซือโป๊งเหน่งก็ไม่เคยหวั่น ตั้งหน้าตั้งตาทำให้ผลงานให่ดีอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายทุกอย่างถูกแสดงออกมาด้วยคะแนนและอันดับบนตาราง นี่ยังคิดอยู่ว่าถ้ากลางฤดูกาลบอร์ดบริหารปลด ซีดาน ไปก่อนแล้ว ตอนนี้มาดริดจะเป็นเช่นไร
แน่นอนว่าแฟน ๆ ทีมรองคงไม่ชอบแน่ อุตส่าห์เชียร์ตราหมีมาตลอด
