ข่าว ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ล่าสุด หงส์แดงบุกเฉือนตราหมีสุดมันส์ จ่อฉลุย 16 ทีม
เรียกว่าโชว์ฟอร์มเด็ดอีกแล้วสำหรับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ล่าสุดสานต่อฟอร์มอันร้อนแรกหลังจากบุกไล่ถล่ม วัตฟอร์ 5-0 เกมถ้วยใหญ่ยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมา งัดผลงานระดับ “มาสเตอร์พีซ” บุกเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด 3-2 โอกาสผ่านเข้ารอบมีสูงมาก ข่าว ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ล่าสุดวันนี้
ส่วนอีกหนึ่งคู่ในกลุ่มเดียวกัน เอฟซี ปอร์โต้ เปิดรัง เอสตาดิโอ โด ดราเกา เอาชนะ เอซี มิลาน 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก หลุยส์ ดิอาซ เก็บ 3 แต้มสำคัญ มีเพิ่มเป็น 4 คะแนน เท่ากับ แอตเลติโก มาดริด ส่วน มิลาน กลับมาเล่นเจ้าถ้วยบิ๊กเอียร์รอบนี้เพลียสุดใจ เล่น 3 เกม มี 0 แต้ม แพ้รวด
หงส์แดงผงาด! บุกเฉือนตราหมี นำฝูงหล่อ ข่าว ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ล่าสุด
น่าจะเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบแดงของพวกเขาในซีซั่นนี้เกมนึงเลยก็ว่าได้ เมื่อลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ยกพลบุกไปเก็บ 3 แต้ม ถึงรัง ว่านต๋า เมโทรโปลีตาโน่ หลังเฉือนเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด แบบสุดมันส์ 3-2 สะสมเพิ่มเป็น 9 แต้ม โอกาสเข้ารอบมีสูงมาก
เกมคู่บิ๊กแมตช์ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมาทัพตราหมีของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ จัดทัพแนวรุกแบบฟูลทีม ส่วนแนวรับมีปัญหาเล็กน้อยต้องใช้ ชอฟฟรีย์ กองด็อกเบีย ลงไปเล่นเซนเตอร์ร่วมกับ เฟลิเป้ และ มาริโอ เอร์โมโซ่
วิงแบ็กขวาซ้าย คีแรน ทริปเปียร์ กับ ยานนิค การ์ราสโก้ ประจำการ ส่วนแดนกลางมี โกเก้ กัปตันทีมคอยคัดท้าย คู่บนใช้ โรดริโก้ เดอ ปอล เล่นกับ โตมาส์ เลอมาร์ คู่กองหน้าเลือกใช้บริการ เชา เฟลิกซ์ กับ อองตวน กรีซมันน์ ที่มีความคล่องตัวคอยเล่นงานแนวรับหงส์แดง
ทางด้านของ ลิเวอร์พูล แดนกลางแม้จะยังไม่มี ฟาบินโญ่ แต้ตำแหน่งอื่นเรียกได้ว่าพร้อมรบแบบเต็มสูบ แดนหลังตัวหลักอยู่กันพร้อมหน้า พื้นที่ตรงกลางใช้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ประสานงานกับ นาบี เกอิต้า และ เจมส์ มิลเนอร์ ส่วนแดนหน้าใช้สามประสานชุดเก่ง
ลิเวอร์พูล ออกนำเร็ว 2-0 ตั้งแต่ 13 นาทีแรก ประตูเบิกร่องได้จาก โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ที่โชว์โซโล่เดี่ยวก่อนซัดแฉลบเข้าไป ส่วนประตูทีสอง นาบี เกอิต้า เก็บตกแถวสองวอลเลย์สุดสวย ชนิดที่ ยาน โอบลัค จอมหนึบระดับโลกหมดปัญญาป้องกัน
อย่างไรก็ตาม พอเจ้าถิ่นเริ่มตั้งตัวได้ไล่ตามตีเสมอได้สำเร็จ โดยได้จาก อองตวน กรีซมันน์ ทั้งสองลูก ประตูแรกมาในนาทีที่ 20 ก่อนที่ประตู 2-2 จะได้ในนาทีที่ 34 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์สุดมันส์ ซึ่งเชื่อได้เลยว่าก่อนเกมไม่มีใครคาดคิดแน่
จุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้นนาทีที่ 52 เมื่อ กรีซมันน์ ฮีโร่ผู้เหมาสองประตูให้กับทีมโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ในจังหวะที่เจ้าตัวเล่นประมาทไปยกเท้าสูงใส่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ทำให้ทัพโรฆิบลังโกสต้องเล่น 10 คน ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่
ลิเวอร์พูล มาได้จุดโทษนาทีที่ 76 เมื่อ มาริโอ เอร์โมโซ่ ไปทำฟาวล์ ดิโอโก้ โชต้า แล้วก็เป็น โม ซาลาห์ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปอย่างเลือดเย็นให้ทีมของพวกเขาขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 ก่อนที่สุดท้ายแล้วจะจบด้วยสกอร์นี้
หงส์แดงจ่อฉลุย หากเฮเกมหน้า ปอร์โต้ ไม่ชนะ การันตีแชมป์กลุ่ม
นัดที่ 4 ของกลุ่มนี้ถือเป็นเกมสำคัญสำหรับทุกทีมจริง ๆ โดยจ่าฝูงของกลุ่มอย่าง ลิเวอร์พูล ที่ตอนนี้มี 9 คะแนน หากเกมหน้าที่จะเปิดรัง แอนฟิลด์ เจอกับ แอตเลติโก มาดริด ถ้าพวกเขาเก็บชัยชนะได้จะการันตีการผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ทันที
ยิ่งไปกว่านั้น หากผลอีกคู่ระหว่าง เอซี มิลาน ที่คราวนี้จะได้กลับไปเล่นใน ซาน ซิโร่ สนามของตัวเอง แล้วไม่แพ้ เอฟซี ปอร์โต้ เป็นอย่างน้อย หากผลของทั้งสองคู่เป็นไปอย่างที่ได้เรียนให้ทราบ ลิเวอร์พูล จะการันการเป็นแชมป์กลุ่มทันที